วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

แบบฝึกหัด บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม
 รหัสวิชา 0026008 กลุ่มเรียนที่ 1ชื่อ-สกุล ณัฐกานต์  เสริมสกุล 55011010160  ระบบ ปกติ

คำชี้แจง  จงพิจารณากรณีศึกษา
     
     1) " นาย  A  ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP - Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง "
        การกระทำอย่างนี้เป็นการทำผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆหรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุได และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
        - เป็นการกระทำที่ผิด เพราะโปรแกรมนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการทดลองวิจัยเท่านั้น ไม่ได้มีการเผยแพร่ให้ใช้งานจริง ขณะเดียวกันคนที่นำไปใช้คือนาย B ซึ่งไม่ได้รับการเห็นชอบของนาย A ผู้พัฒนา โดยนำไปแกล้งนางสาว C ความผิดนี้ ถือเป็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและการนำโปรแกรมในการทดลองไปใช้จริง 
         นาวสาว C ก็ทำผิด ไม่ควรนำโปรแกรมนี้ไปส่งต่อให้เพื่อน ๆ  ถือเป็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาเช่นกัน

    2) " นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐานอ้างอิงจากตำราต่างๆ อีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J "
         การกระทำอย่างนี้เป็นการทำผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหนจงอธิบาย
       - นาย J ทำผิดจริยธรรม หลอกลวงผู้อื่น อาจจะทำให้มีคนเข้าใจผิดและนำข้อมูลไปใช่ ทั้งที่ข้อมูลนั้นอาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่จริง ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อเด็กชาย K ที่นำข้อมูลไปใช้

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ รายวิชา การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน

แบบฝึกหัด บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ รายวิชา การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มเรียนที่ 1 ชื่อ-สกุล ณัฐกานต์  เสริมสกุล 55011010160  ระบบ ปกติ

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.
หน้าที่ของ Firewall คือ
Firewall
คือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน้าที่ของไฟร์วอลคือ เป็นตัวกรองข้อมูลสื่อสารในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไฟร์วอลจะคอยตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ระหว่างเครือข่าย หรือ ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ซึ่งเป็นการป้องกันการโจมตี ป้องกันไวรัส หนอนอินเทอร์เน็ต สแปม เป็นต้น และป้องกันการบุกรุกต่างๆ ที่ไม่หวังดีต่อระบบ ไฟร์วอลเปรียบเสมือนยาม หรือ รปภ. ที่คอยตรวจสอบผู้เข้าออกต่างๆ ในสถานที่นั้นๆ
ความผิดพลาดของตัวไฟร์วอล หรือการปรับแต่งไฟร์วอลที่ผิดพลาด หรือไม่เหมาะสม อาจส่งผลทำให้ไฟร์วอลมีช่องโหว่ และนำไปสู่การโจรกรรมข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือการทำลายระบบคอมพิวเตอร์ได้
2.
จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm, virus computer, spyware, adware มาอย่างน้อย 1 โปรแกรม
มัลแวร์ (Malware) ย่อมาจากคำว่า Malicious Software หมายถึงโปรแกรมประสงค์ร้ายต่างๆ โดยทำงานในลักษณะที่เป็นการโจมตีระบบ การทำให้ระบบเสียหาย รวมไปถึงการโจรกรรมข้อมูล มัลแวร์ แบ่งออกได้หลายประเภท เช่น
ไวรัส (Virus)
เวิร์ม (Worm) หรือหนอนอินเทอร์เน็ต
ม้าโทรจัน (Trojan Horse)
การแอบดักจับข้อมูล (Spyware)
คีย์ล็อกเกอร์ (Key Logger)
ตลอดจนโปรแกรมประเภทขโมยข้อมูล (Cookie) และการฝัง Malicious Mobile Code (MMC) ผ่านทางช่องโหว่ของโปรแกรมอื่น เช่นช่องโหว่ของโปรแกรม Internet Explorer (IE Vulnerability) ที่เกิดขึ้น โดยโปรแกรมจะทำการควบคุมการทำงานโปรแกรม Internet Explorer ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ที่ไม่หวังดี เช่น การแสดงโฆษณาในลักษณะของการ Pop-Up หน้าต่างโฆษณาออกมาเป็นระยะ เรียกโปรแกรมประเภทแสดงโฆษณารบกวนว่า แอ็ดแวร์ (Adware)
ภัยเหล่านี้ในปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเกิดผลกระทบแก่ผู้ใช้งานได้ ถ้าได้รับโปรแกรมเหล่านี้เข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์
มัลแวร์ประเภทต่างๆ มักถูกเรียกรวมๆ ว่าเป็นไวรัส ซึ่งไม่ถูกต้องนัก
ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus) หรือนิยมเรียกโดยย่อว่า "ไวรัส" หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บุกรุกเข้าไปในระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ (โอเอส) หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์อื่น หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ ไวรัสฯ โดยทั่วไปมีประสงค์ร้าย คือ ก่อกวนผู้ใช้ และ/หรือ สร้างความเสียหายให้กับข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ
หนอนคอมพิวเตอร์ หรือ คอมพิวเตอร์เวิร์ม (computer worm) หรือเวิร์ม มักจะแพร่กระจายโดยไม่ผ่านการใช้งานของผู้ใช้โดยตรง เช่นเป็นไฟล์ Autorun หรือไฟล์หนอนฯ เข้าไปฝังอยู่ในระบบ ทำให้หนอนฯ ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง หรือทุกครั้งที่เข้าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น หรือผ่านการใช้งานที่ไม่ได้ตั้งใจ เช่นเป็นไฟล์หนอนฯ ที่ทำชื่อไฟล์และรูปไอคอนหลอกลวง เพื่อล่อหรือลวงให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์หรือเปิดไฟล์ เป็นต้น
หนอนสามารถคัดลอกตัวหนอนเองไปยังไดรว์อื่นๆ ได้ แฟลชไดรว์จึงสามารถเป็นพาหะนำหนอนไปติดยังเครื่องอื่นได้ หนอนบางชนิดจะคัดลอกและกระจายตัวมันเองผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น LAN หรืออินเทอร์เน็ตด้วย หนอนคอมพิวเตอร์สามารถทำลายข้อมูลและแบนด์วิธ สร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการทำให้คอมพิวเตอร์หยุดทำงาน หนอนคอมพิวเตอร์สามารถที่จะควบคุมความสามารถบางอย่างของคอมพิวเตอร์ และสามารถที่จะส่งไฟล์หรือข้อมูลที่สำคัญไปสู่ผู้สร้างหนอนฯ ผู้ที่ไม่หวังดี คู่แข่ง หรือใครก็ได้ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายได้
ในทางเทคนิคแล้ว แม้ว่าวิธีการแพร่กระจายของไวรัสและหนอนฯ (เวิร์ม) จะคล้ายคลึงกัน คือคัดลอกตัวเองไปติดที่ไดรว์อื่น โฟลเดอร์อื่น หรือไฟล์อื่น แต่ไวรัสจะไม่มีไฟล์เป็นของตัวเอง ไวรัสจะติดแทรกอยู่กับไฟล์อื่น และทำให้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ (โอเอส) หรือโปรแกรมอื่น หรือไฟล์อื่น ผิดเพี้ยน หรือเปลี่ยนแปลงไปบางส่วน หรือทั้งหมด ส่วนหนอนฯ จะมีไฟล์เป็นของตัวเอง หากเราสามารถลบไฟล์หนอนฯ ออกไปได้ (โดยที่ไม่ลบผิดไฟล์) ก็จะไม่กระทบต่อไฟล์งานอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่การทำงานของหนอนฯ อาจส่งผลเสียต่อโอเอส หรือโปรแกรมอื่น หรือไฟล์อื่นด้วยเช่นเดียวกัน
ม้าโทรจัน (Trojan Horse) เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรมธรรมดา ทั่ว ๆ ไป เพื่อหลอกล่อผู้ใช้ให้ทำการเรียกขึ้นมาทำงาน แต่เมื่อถูกเรียกขึ้นมา ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมมาทันที ม้าโทรจันบางตัวถูกเขียนขึ้นมาใหม่ทั้งชุด โดยคนเขียนจะทำการตั้งชื่อโปรแกรมพร้อมชื่อรุ่นและคำ อธิบาย การใช้งาน ที่ดูสมจริง เพื่อหลอกให้คนที่จะเรียกใช้ตายใจ
จุด ประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจันคือเข้าไปทำอันตรายต่อ ข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่อง หรืออาจมีจุดประสงค์เพื่อที่จะล้วง เอาความลับของระบบคอมพิวเตอร์
ม้าโทรจันถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาโดด ๆ และจะไม่มีการเข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้ เป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มี ม้าโทรจันอยู่ในนั้นและนับว่าเป็นหนึ่งในประเภทของโปรแกรมที่มีความอันตราย สูง เพราะยากที่จะตรวจสอบและสร้างขึ้นมาได้ง่าย ซึ่งอาจจะใช้แค่แบตช์ไฟล์ก็สามารถเขียนโปรแกรมม้าโทรจันได้
3.
ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
1.
บูตเซกเตอร์ไวรัส (Boot Sector Viruses) หรือ Boot Infector Viruses คือไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในบูตเซกเตอร์ของดิสก์
การใช้งานของบูตเซกเตอร์ คือเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานขึ้นมาครั้งแรก เครื่องจะเข้าไปอ่านบูตเซกเตอร์ โดยในบูตเซกเตอร์จะมีโปรแกรมเล็ก ๆ ไว้ใช้ในการเรียกระบบปฏิบัติการขึ้นมาทำงาน
การทำงานของบูตเซกเตอร์ไวรัสคือ จะเข้าไปแทนที่โปรแกรมที่อยู่ในบูตเซกเตอร์ โดยทั่วไปแล้วถ้าติดอยู่ในฮาร์ดดิสก์ จะเข้าไปอยู่บริเวณที่เรียกว่า Master Boot Sector หรือ Partition Table ของฮาร์ดดิสก์นั้น
ถ้าบูตเซกเตอร์ของดิสก์ใดมีไวรัสประเภทนี้ติดอยู่ ทุก ๆ ครั้งที่บูตเครื่องขึ้นมา เมื่อมีการเรียกระบบปฏิบัติการจากดิสก์นี้ โปรแกรมไวรัสจะทำงานก่อนและเข้าไปฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำเพื่อเตรียมพร้อม ที่จะทำงานตามที่ได้ถูกโปรแกรมมา ก่อนที่จะไปเรียกให้ระบบปฏิบัติการทำงานต่อไป ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
2.
โปรแกรมไวรัส (Program Viruses) หรือ File Intector Viruses เป็นไวรัสอีกประเภทหนึ่ง ที่จะติดอยู่กับโปรแกรม ซึ่งปกติจะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น COM หรือ EXE และบางไวรัสสามารถเข้าไปอยู่ใน
โปรแกรมที่มีนามสกุลเป็น SYS ได้ด้วย
(
โปรแกรมไวรัสในที่นี้ หมายถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยทั่วไป ที่ติดไวรัสขึ้นในภายหลัง ไม่ได้กล่าวรวมไปถึงโปรแกรมหนอน หรือโปรแกรมม้าโทรจัน อันเป็นโปรแกรมที่ตัวมันเองเป็นภัยคุกคามระบบเองโดยตรง ซึ่งต้องลบทิ้งหรือกำจัดทิ้งสถานเดียว)
การทำงานของไวรัสประเภทนี้ คือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่ติดไวรัส ส่วนของไวรัสจะทำงานก่อนและจะถือโอกาสนี้ฝังตัวเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำ ทันที แล้วจึงค่อยให้โปรแกรมนั้นทำงานตามปกติ เมื่อฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำแล้ว หลังจากนี้หากมีการเรียกโปรแกรมอื่น ๆ ขึ้นมาทำงานต่อ ตัวไวรัสจะสำเนาตัวเองเข้าไปในโปรแกรมเหล่านี้ทันที เป็นการแพร่ระบาดต่อไป
นอกจากนี้ไวรัสนี้ยังมีวิธีการแพร่ระบาดอีกคือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่มีไวรัสติดอยู่ ตัวไวรัสจะเข้าไปหาโปรแกรมอื่น ๆ ที่อยู่ติดเพื่อทำสำเนาตัวเองลงไปทันที แล้วจึงค่อยให้โปรแกรมที่ถูกเรียกนั้นทำงานตามปกติต่อไป
3.
โพลีมอร์ฟิกไวรัส (Polymorphic Viruses) เป็นชื่อที่ใช้เรียกไวรัสที่มีความสามารถในการแปรเปลี่ยนตัวเองได้เมื่อมี การสร้างสำเนาตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งอาจได้ถึงหลายร้อยรูปแบบ ผลก็คือ ทำให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจัดโดยโปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใช้วิธีการส แกนอย่างเดียว ไวรัสใหม่ ๆ ในปัจจุบันที่มีความสามารถนี้เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
4.
สทิลต์ไวรัส (Stealth Viruses) เป็นชื่อเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการพรางตัวต่อการตรวจจับได้ เช่น ไฟล์อินเฟกเตอร์ ไวรัสประเภทที่ไปติดโปรแกรมใดแล้วจะทำให้ขนาดของโปรแกรมนั้นใหญ่ขึ้น ถ้าโปรแกรมไวรัสนั้นเป็นแบบสทิสต์ไวรัส จะไม่สามารถตรวจดูขนาดที่แท้จริงของโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นได้
เนื่องจากตัวไวรัสจะเข้าไปควบคุมระบบปฏิบัติการ เช่น ดอส เมื่อมีการใช้คำสั่ง DIR หรือควบคุมโปรแกรมใดก็ตามที่ใช้ตรวจดูขนาดของโปรแกรม ดอสก็จะแสดงขนาดเหมือนเดิมทุกอย่าง ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
5. Macro viruses
จะติดต่อกับไฟล์ซึ่งใช้เป็นต้นแบบ (template) ในการสร้างเอกสาร (documents หรือ spreadsheet) หลังจากที่ต้นแบบในการใช้สร้างเอกสารติดไวรัสแล้ว ทุก ๆ เอกสารที่เปิดขึ้นใช้ด้วยต้นแบบอันนั้นจะติดไวรัสนั้นตามไปด้วย และไวรัสอาจทำให้ไฟล์งานนั้นเสียหายหรือผิดเพี้ยนไปจากเดิม
4.
ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ
คำแนะนำและการป้องกันไวรัส
ควรติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่เชื่อถือได้ และต้องสามารถอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสและเครื่องมือได้ตลอด เพราะจะทำให้สามารถดักจับและจัดการกับไวรัสตัวใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
อัพเดทซอฟต์ แวร์ป้องกันไวรัสอย่างสม่ำเสมอ หา่กเป็นไปได้ควรอัพเดททุกครั้งที่ออนไลน์ เพราะจะมีไวรัสใหม่หรือภัยคุกคามอื่นๆ แบบใหม่เกิดขึ้นทุกวันในโลก
ควรสแกนแฟลชไดรว์ก่อนใช้งานทุกครั้ง เพราะแฟลชไดรว์เป็นพาหะในการแพร่ไวรัส หนอน หรือม้าโทรจัน จากพีซีเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้
ไม่ควรเรียกโปรแกรมที่ติดมากับแฟลชไดรว์อื่น โดยไม่จำเป็น
ควรสำรองไฟล์ข้อมูลที่สำคัญ (ก็อปปี้ไฟล์ข้อมูลที่สำคัญไปเก็บไว้ที่อื่นๆ)

The best coffee is Starbucks Coffee.

สตาร์บัคส์


สตาร์บัคส์ได้รับการยอมรับเสมอมาในฐานะผู้นำทางด้านธุรกิจกาแฟ ถ้าย้อนไปในปี 1971 ลูกค้าต้องเดินทางไกลไปถึงตลาดไพค์ เพลส (Pike Place Market) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นร้านสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ร้านแรกของเรา

ประวัติโดยสังเขป

1970sช่วงทศวรรษที่ 70 หรือเริ่มต้นปี พ.ศ. 2514
ร้านกาแฟสตาร์บัคส์แห่งแรกได้ถือกำเนิดขึ้น โดยตั้งชื่อร้านจากตัวละครในเรื่อง Moby Dick นวนิยายคลาสสิกสมัยศตวรรษที่ 19 ของอเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับปลาวาฬ นวนิยายดังกล่าวประพันธ์โดย Herman Melvilles สตาร์บัคส์เชื่อว่า การนำชื่อสิ่งที่อยู่ไกลโพ้นทะเลมาตั้งเป็นชื่อร้านนั้นมีความเหมาะสม เพราะเปรียบเสมือนการเสาะแสวงหาเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดในโลกมาให้ผู้คนในเมืองซีแอตเติลได้ลิ้มลอง
1980sHoward Schultz joins Starbucks
ช่วงทศวรรษที่ 80 หรือเริ่มต้นปี พ.ศ. 2524
มรโฮวาร์ด ชูลท์ส ร่วมงานกับสตาร์บัคส์ในปี พ.ศ. 2525 หรือค.ศ. 1982 ในระหว่างที่เขาเดินทางไปเจรจาธุรกิจที่ประเทศอิตาลี
เขารู้สึกประทับใจกับร้านเอสเพรสโซ่ที่มีชื่อเสียงในเมืองมิลานที่เขาแวะไปเยี่ยมชม ทั้งในรูปแบบและความเป็นที่นิยมของร้าน ร้านดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากที่จะสร้างร้านแบบนี้ในเมืองซีแอตเติล และก็เป็นไปอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ หลังจากความพยายามในการทดลองสูตรทั้งกาแฟ ลาเต้ และ
เอสเพรสโซ่ เพียงไม่นานเมืองซีแอตเติลก็กลายเป็นเมืองแห่งกาแฟไปอย่างรวดเร็ว
1990sStarbucks store in Japanช่วงทศวรรษที่ 90 หรือเริ่มต้นปี พ.ศ. 2534 
สตาร์บัคส์เริ่มขยายธุรกิจจากเมืองซีแอตเติล ไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก สตาร์บัคส์เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่มีการปันหุ้นให้กับพนักงานรายชั่วโมง และในเวลาเพียงไม่นาน บริษัท สตาร์บัคส์ ก็เป็นบริษัทที่มีหุ้นซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
2000sStarbucks baristaตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา 
ปรากฎการณ์ความนิยมสตาร์บัคส์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน สตาร์บัคส์มีร้านกาแฟกว่า 6,000 แห่งใน 30 ประเทศทั่วโลก นอกจากกาแฟเอสเพรสโซ่
รสชาติเยี่ยมแล้ว ลูกค้ายังสามารถเพลิดเพลินกับ
ชาทาโซ่ และแฟรบปูชิโน่เครื่องดื่มปั่นสูตรพิเศษจากสตาร์บัคส์ได้อีกด้วย  


สร้างสรรค์เครื่องดื่มได้ดั่งใจคุณ

                          


หลายคนมักกล่าวว่า “สิ่งที่คุณทานบ่งบอกความเป็นคุณ” สำหรับสตาร์บัคส์ เราเชื่อว่าเครื่องดื่มแต่ละประเภทบ่งบอกความเป็นตัวคุณ เราสังเกตว่าลูกค้าที่สั่งทริปเปิล แกรนเด ดีแคฟ ลาเต้ กับลูกค้าที่สั่ง ทอล คาราเมล มัคคิอาโตเย็น นั้นมีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนกัน

แล้วเครื่องดื่มถ้วยที่คุณโปรดปรานคืออะไร ถ้าคุณยังไม่รู้ สตาร์บัคส์ยินดีช่วยให้คุณได้ค้นพบเครื่องดื่มถ้วยโปรดถ้วยนั้นของคุณ ด้วยทางเลือกหลากหลายที่คุณสามารถเลือกได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำ หรือเครื่องดื่มแบบไร้คาเฟอีน

4 วิธีในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มสตาร์บัคส์ดั่งใจคุณ
  • เลือกจำนวนช็อตกาแฟเอสเพรสโซ่ว่าต้องการกี่ช็อต
  • เลือกน้ำเชื่อมรสชาติต่างๆ
  • เลือกประเภทนม
  • ตัวเลือกอื่นๆ อาทิ ความร้อนของเครื่องดื่มแก้วขนาดต่างๆ เป็นต้น
กาแฟเอสเพรสโซ่ประเภทต่างๆ




เรามาเริ่มกันที่หัวใจของกาแฟทุกประเภท นั่นก็คือ ช็อตเอสเพรสโซ่เข้มข้น
กาแฟธรรมดา (Regular)เป็นช็อตกาแฟเอสเพรสโซ่โดยมาตรฐานที่สตาร์บัคส์ใช้ในการทำเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ทุกประเภท ให้รสชาติเข้มข้น เจือความหวานละมุนคล้ายคาราเมล
กาแฟสกัดสารคาเฟอีน (Decaf) สำหรับทุกครั้งที่คุณต้องการรสชาติครบทุกอย่างของกาแฟเอสเพรสโซ่ แต่ลดความเข้มข้นลง
เพิ่มช็อตกาแฟ (Extra Shots) หากคุณต้องการกาแฟรสชาติเข้มข้นมากขึ้น คุณสามารถเพิ่มช็อตกาแฟเอสเพรสโซ่อีกหนึ่งหรือสองช็อต ถ้าเป็นเครื่องดื่มที่ใส่เอสเพรสโซ่ 2 ช็อต เราเรียกว่า ดับเบิ้ล
Half-Caf การเพิ่มช็อตกาแฟเอสเพรสโซ่แบบสกัดสารคาเฟอีน 1 ช็อต ผสมกับกาแฟเอสเพรสโซ่ธรรมดา 1 ช็อต
Ristretto กาแฟเอสเพรสโซ่ที่ดึงเอาเฉพาะรสชาติหวานของกาแฟออกมาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรสชาติกาแฟแบบพิเศษโดยเฉพาะ
                                                                         น้ำเชื่อมหลากหลายรสชาติ




ถ้าคุณชื่นชอบรสหวาน ลองเติมน้ำเชื่อมลงในลาเต้ เพิ่มราคาอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
วานิลลา  น้ำเชื่อมรสยอดนิยม

คาราเมล ให้รสชาติเข้มข้น หอมหวานยิ่งขึ้น เมื่อใส่ในกาแฟเอสเพรสโซ่

เฮเซลนัท เพิ่มความนุ่มละมุน และความหอมมันของถั่วในเครื่องดื่มคุณ

ราสเบอร์รี่ ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่นแบบเบอร์รี่ในเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ของคุณ
                                                                          เลือกนมแบบที่ถูกใจคุณ  

หลากหลายวิธีสร้างสรรค์นมประเภทต่างๆ ในเครื่องดื่มของคุณ ไม่ว่าจะเป็น นมพร่องมันเนย, นมร้อน, ฟองนม, แบบเว็ท หรือดราย

นมสดธรรมดา ปกติเราใช้ “นมสดธรรมดา” ในการทำเครื่องดื่ม หรือนมสดประเภทอื่นๆ ตามความต้องการของคุณ
นมพร่องมันเนย อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
นมถั่วเหลือง หากคุณดื่มนมไม่ได้หรือไม่ชอบดื่มนม คุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับกาแฟลาเต้ใส่นมถั่วเหลืองได้  เพียงบอกบาริสต้าของเรา ซึ่งเพิ่มเงินอีกเพียงเล็กน้อย (มีจำหน่ายเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้น)
                                  ตัวเลือกอื่นๆ ขั้นตอนสุดท้ายในการทำเครื่องดื่มในแบบของคุณ



คุณยังมีอีกมากมายหลายวิธีในการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้กับเครื่องดื่มของคุณนอกเหนือไปจากการเติมนม น้ำเชื่อม หรือกาแฟ เพื่อให้คุณได้สัมผัสรสชาติกาแฟที่คุณต้องการโดยแท้จริง
ดราย หรือ โฟมมี่ คาปูชิโน่แบบดราย คือ คาปูชิโน่ที่มีฟองนมมากกว่านม

เว็ท หรือ แฟลท ในทางกลับกัน คาปูชิโน่แบบเว็ท จะมีนมมากกว่าฟองนม ทำให้เราได้กาแฟเอซเพรสโซ่ใส่นม คล้ายๆ ลาเต้

วิปครีม หรือ ไม่ใส่วิปครีม ลองเติมความสนุกให้เครื่องดื่มอีกหน่อยด้วยวิปครีม แต่ถ้าเครื่องดื่มของคุณมีวิปครีมอยู่แล้ว (อย่างเช่นมอคค่า) คุณสามารถบอกเราไม่ให้ใส่วิปครีมได้

ไลท์ (น้อยๆ) ถ้าคุณอยากจะลดอะไรสักหน่อย บอกเราว่าขอแบบ ไลท์  ไม่ว่าจะเป็น ครีมน้อย ๆ น้ำเชื่อมน้อย ๆ โฟมบางๆ  เพียงบอกเรา

น้ำตาลเทียม เรายินดีเพิ่มความหวานให้กับเครื่องดื่มด้วยน้ำตาล Equal หากคุณต้องการ
  
ร้อนมากเป็นพิเศษ ปกติเราจะอุ่นนมให้ร้อนประมาณ 70 องศาเซลเซียส (หรือ 160 องศาฟาเรนไฮท์)  สำหรับคุณที่ชอบเครื่องดื่มร้อนกว่านั้นหน่อย เรายินดีเตรียมให้  



menu starbucks thailand

- Coffee / กาแฟ
กาแฟผสมนมปั่นสูตรพิเศษ
Tall 105 บาท, Grande 120 บาท, Venti 135 บาท

- Espresso / เอสเพรสโซ่
กาแฟผสมเอสเปรสโซ่เข้มข้นและนมปั่น
Tall 120 บาท, Grande 135 บาท, Venti 150 บาท

- Mocha / มอคค่า
กาแฟผสมน้ำเชื่อมช็อคโกแลตและนมปั่น ราดด้วยวิปครีม
Tall 120 บาท, Grande 135 บาท, Venti 150 บาท

- Caramel / คาราเมล
กาแฟผสมน้ำเชื่อมคาราเมลและนมปั่น ราดด้วยวิปครีมและซอสคาราเมล
Tall 120 บาท, Grande 135 บาท, Venti 150 บาท

- Java Chip / จาวา ชิพ
กาแฟผสมช็อคโกแลตชิพ น้ำเชื่อมช็อคโกแลตและนมปั่น ราดด้วยวิปครีมและช็อคโกแลต
Tall 145 บาท, Grande 160 บาท, Venti 175 บาท

ต่อไปข้างล่างนี่ .. เป็นเมนูปั่นที่ไม่มีส่วนผสมของกาแฟนะครับ

- Vanilla Cream / วานิลลาครีม
ครีมผสมน้ำเชื่อมวานิลลาและนมข้น
Tall 120 บาท, Grande 135 บาท, Venti 150 บาท

- Chocolate Cream / ช็อคโกแลตครีม
ครีมผสมน้ำเชื่อมช็อคโกแลตและนมปั่น ราดด้วยวิปครีมและช็อคโกแลตซอส
Tall 120 บาท, Grande 135 บาท, Venti 150 บาท

- Caramel Cream / คาราเมลครีม
ครีมน้ำเชื่อมคาราเมลและนมปั่น ราดด้วยวิปครีมและคาราเมลซอส
Tall 120 บาท, Grande 135 บาท, Venti 150 บาท

- Green Tea Cream / กรีนทีครีม
ครีมผสมชาเขียวและนมปั่น ราดด้วยวิปครีม
Tall 145 บาท, Grande 160 บาท, Venti 175 บาท

- Chocolate cream chip / ช็อคโกแลตครีม ชิพ
ครีมผสมช็อคโกแลตชิพ น้ำเชื่อมช็อคโกแลตและนมปั่น ราดด้วยวิปครีมและช็อคโกแลตซอส
Tall 145 บาท, Grande 160 บาท, Venti 175 บาท

ต่อไปเมนูด้านล่างจะเป็นเมนูปั่นน้ำผลไม้นะครับ

- Mango Passion fruit / แมงโก้ แพสชั่น ฟรุต
น้ำมะม่วงผสมผสมเสาวรส และชาปั่น
Tall 100 บาท, Grande 115 บาท, Venti 130 บาท

- Raspberry Black Currant / ราสเบอร์รี่ แบล็คเคอรเร้นท์
น้ำราสเบอร์รี่ ผสม แบล็คเคอร์เร้นท์และชาปั่น
Tall 100 บาท, Grande 115 บาท, Venti 130 บาท

- ขอให้ทุกคนมีความสุขกับดื่มด่ำกาแฟในแบบของคุณนะค่ะ -

ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.starbucks.co.th/th/

Macaron มันคืออะไร ?


มาการอง (Macaron) เป็นขนมหวานที่มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส มีส่วนประกอบหลักของ Almond น้ำตาล และไข่ขาว มีลักษณะคล้ายคุ้กกี้ชิ้นเล็กสองอันประกบกันมีไส้ตรงกลาง มีสีสันสดใส กรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ตรงกลางด้วยกานาช (Ganache) มีหลายรสชาติ เช่น ช็อกโกแลต สตรอเบอร์ รี่ วานิลลา อัลมอนด์ หรือผลไม้ตามฤดูกาล เป็นต้น และมักนิยมทานคู่กับชา หรือ กาแฟ

มาการอง เป็นที่รู้จักครั้งแรกในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สมัยนั้นข้าวยากหมากแพง เนื้อสัตว์ โปรตีนไม่มีให้รับประทานมากมายนัก เหล่าแม่ชีชาวอิตาเลียนที่อพยพมายังประเทศฝรั่งเศสจึงดำรงชีพอยู่ด้วยอัลมอนด์ เพราะมีคุณค่าทางอาหารไม่แพ้เนื้อสัตว์ โดยนำมาประกอบเป็นอาหารหรือขนมหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือ ขนมจากอัลมอนด์ ซึ่งต่อมากลายเป็นของหวานที่ชาวฝรั่งเศสชื่นชอบมาจนถึงปัจจุบัน

สเน่ห์ของมาการองไม่ได้อยู่ที่สีสันสดใสเท่านั้น ว่ากันว่ามาการองที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่รูปร่างคล้ายกับโดมแบน ๆ มองดูจากด้านบนเป็นวงกลม ผิวด้านบนของขนมเรียบมันจากความละเอียดของอัลมอนด์บด ส่วนที่สำคัญคือ “Foot” บางตำราเรียก ”Skirt” รอยหยักคล้ายลูกไม้ชายกระโปรงที่บางกรอบ ซึ่งมีวิธีการทำที่ยุ่งยากพอควร อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ กลิ่นหอมหวาน เคล็ดลับอยู่ที่หลังจากนำมาการอง 2 ชิ้นมาประกบกันแล้ว ต้องเก็บไว้ในที่เย็น 1 คืน เพื่อให้ไส้รสชาติต่าง ๆ ซึมซาบเข้าสู่ชั้นของคุกกี้ นอกจากนี้ความชื้นจากไส้ยังทำให้มากาฮองมีความนุ่มหนึบเวลาเคี้ยวอีกด้วย

คุณลักษณะของมาการองที่ดี จะต้องมีรสชาติที่ผสานกันอย่างลงตัวระหว่างไส้กานาชและเนื้อคุกกี้ ส่วนสูงที่สมดุลของตัวคุกกี้ชิ้นบนและล่างที่มีขนาดเท่า ๆ กัน รวมทั้งไส้ที่บีบพอดีขอบให้เห็นเป็นเส้นเล็ก ๆ ตลอดทั้งชิ้น



ส่วน มาการูน (Macaroon) คือขนมที่ชาวอเมริกันดัดแปลงจากมากาฮองของประเทศฝรั่งเศสโดยใช้มะพร้าวป่น แทนอัลมอนด์บด ทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกาเรียกขนมชนิดนี้ว่า “Coconut Macaroon” นิยมจุ่มลงในซอสช็อกโกแลตก่อนรับประทาน แต่ในศตวรรษที่ 20 ของหวานสไตล์ฝรั่งเศส เริ่มเข้ามามีอิทธิพลในประเทศสหรัฐอเมริกา มาการูน จึงได้รับความนิยมน้อยลง บวกกับมะพร้าวหาได้ยากและมีราคาแพง ร้านขนมต่าง ๆ จึงหันมาใช้อัลมอนด์บดเหมือนมากาฮอง อันเป็นที่มาของความสับสนระหว่าง 2 คำนี้
**ใน ประเทศอังกฤษ ยังเรียก “Macaron” ว่า “Macaroon” เนื่องจากเป็นที่รู้จักและมีความเป็นสากลมากกว่า**



สาธิตการทำ macaron แบบง่ายๆ

- ส่วนผสม -

ไข่ขาว 75 กรัม (แยกไข่ขาวเอาไว้แล้วเก็บเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 2-4 วัน)
น้ำตาลทรายละเอียด 50 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 135 กรัม
อัลมอนต์มีล 90 กรัม 
เกลือเล็กน้อย
สีตามชอบ

- เริ่มกันเล๊ยย -ไข่หลังจากที่แยกเอาไว้ 2 วัน (ถ้าเอาให้ชัวร์ 3-4 วันดีกว่าเนอะ )

            


น้ำตาลไอซิ่งกับอัลมอนต์มีลชั่งรวมกันไปเลย (ไม่ต้องล้างเยอะ )
อัลมอนต์มีลของเราวันนี้ชื้นมากเราเลยเอาไปอบที่ 60 องศาเซลเซียสประมาณ 10 นาทีไล่ความชื้นซะหน่อย...
วิธีสังเกตุ...คือเอามือบี้ๆแล้วติดเป็นก้อนเลยค่ะแสดงว่าชื้นแน่นอน

          

น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด
        
          


สีตามชอบ...

          


- วิธีทำ -


เอาอัลมอนต์มีลกับน้ำตาลไอซิ่งไปปั่นให้ละเอียด

ปั่นเสร็จใช้กระชอนตาห่างๆร่อนซักสองครั้งใส่เกลือไปจี๊ดนึง


                 



ตีไข่ขาว..ตีให้เป็นฟองแบบนี้ค่ะ

ตีสปีดสูงค่อยๆใส่น้ำตาลจนหมดจนได้ยอดอ่อน



              











ใส่สีได้เลย...วันนี้จะทำสีเหลือง แต่ด้วยความที่เวลาอบสีเหลืองทีไรหน้าจะด่างตลอดเราเลยขอเอาสีน้ำตาลใส่ลงไปนิดนึง 

   



เอาส่วนของอัลมอนต์มีลกับไอซิ่งที่ร่อนแล้วผสมลงไปแบ่งใส่ซักสามรอบเอา spatula fold เร็วๆค่ะช่วงแรกๆ

วิธีการก็เอา spatula fold ตามเข็มนาฬิกาแล้วหมุนกะละมังไปในตัว
ช้อนเอาส่วนก้นขึ้น ลง เป็นวงกลมเร็วๆ ขั้นต้องนี้เราจะ break mass คือเราจะทำลายฟองอากาศหยาบๆของไข่ขาวจนผสมให้เนียน 
พอเริ่มเข้ากันก็เอาส่วนผสมที่เหลือใส่ให้หมดตะล่อมไปนับในใจไปด้วยว่ากี่ครั้ง...
ตะล่อมน้อยดีกว่าตะล่อมมากค่ะ
ตะล่อมน้อยไป...ยังเอามาตะล่อมเพิ่มได้
ตะล่อมมากส่วนผสมเหลว....ใช้ไม่ได้..ทิ้งลูกเดียว ฮ่า











พอ fold เกือบเข้าที่ถ้าใครมีที่ปาดเค้กแบบนี้เอามาใช้เลยค่ะ
การใช้ที่ปาดเค้กแบบนี้ทำให้ไม่ over mix ค่ะเพราะใหญ่แต่ถ้าใครมีพายใหญ่ก็ใช้ได้ไม่ว่ากัน
เอามา fold จนขึ้นเงาสวยงามส่วนผสมไหลเหมือน magma ถึงช่วงนี้ค่อยๆ fold จนส่วนผสมเป็นเงางาม
ฝรั่งเค้าเรียกขั้นตอนนี้ว่า macaronage 


    

     

เอาใส่ถุงเตรียมบีบ



                       


  


จะโรยงาก้อได้ค่ะ
พักผิวประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั้วโมง...ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของเราแห้งเร็ว 30 นาทีส่งอบโลดที่ 150 องศาแบบมีพัดลม ไฟบน-ล่าง....หลังจาก 5 นาทีผ่านไปเอาไม้แง้มประตูเตาอบไล่ความชื้นแล้วอบต่ออีก 8 นาที....
เราอบรวมทั้งหมด 13 นาที...ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของมาการอนและเตาอบของแต่ล่ะบ้านด้วยน๊าสังเกตุกันเอาเองเราลองมาหลายสูตร หลายแบบ แบบนี้เวิร์คสุดสำหรับเรา 



   


บีบไส้...วันนี้ทำสองไส้ มีเลม่อนเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดกินแล้วหายง่วง กับ ราสเบอรี่บัตเตอร์ครีม